หน้าหลัก    ข่าวสาระน่ารู้  
รายละเอียดข่าว
 
Warning: include(core_main/language/.php) [function.include]: failed to open stream: No such file or directory in D:\AppServ\www\thalanglib\core_main\function\function_button.php on line 247

Warning: include() [function.include]: Failed opening 'core_main/language/.php' for inclusion (include_path='.;C:\php5\pear') in D:\AppServ\www\thalanglib\core_main\function\function_button.php on line 247

Warning: include(core_main/language/.php) [function.include]: failed to open stream: No such file or directory in D:\AppServ\www\thalanglib\core_main\function\function_button.php on line 257

Warning: include() [function.include]: Failed opening 'core_main/language/.php' for inclusion (include_path='.;C:\php5\pear') in D:\AppServ\www\thalanglib\core_main\function\function_button.php on line 257
  ปาล์มหลังขาว แห่งเดียวในโลกที่จังหวัดภูเก็ต  
      

ปาล์มหลังขาว แห่งเดียวในโลกที่จังหวัดภูเก็ต !!!

        ปาล์มหลังขาว นับเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติในป่าดิบชื้น นิยมขึ้นในบริเวณริมลำธาร และบริเวณที่ที่มีลำแสงและแดดลมไม่มากนัก มีลำต้นสูงประมาณ 5-7 เมตร ใบเป็นรูปพัดคล้ายใบตาล ขอบใบเป็นแฉก ที่สำคัญคือหลังใบเป็นสีขาวขุ่นซึ่งแตกต่างจากปาล์มชนิดอื่น จึงเป็นที่มาของชื่อไม้ชนิดนี้นั่นเอง

       ช่วงเดือนธันวาคมปาล์มหลังขาวจะออกดอกเป็นยวงสีขาวนวล จนประมาณเดือนกุมภาพันธ์จึงเจริญเติบโตเป็นผลกลม เปลือกสีเหลือง เมื่อแก่เต็มที่จะเป็นสีเหลืองแก่ แล้วร่วงลงสู่พื้นดินขยายพันธุ์เป็นต้นใหม่ต่อไป

      โดยปาล์มหลังขาวพบเป็นแห่งแรกในโลกที่เขาพระแทว จังหวัดภูเก็ต ต่อมาจึงมีการพบเพิ่มเติมอีกที่ เขาหลวง(นครศรีธรรมราช) เขาสก(สุราษฎร์ธานี)

    สำหรับความเป็นมาของการพบปาล์มหลังขาวที่ป่าเขาพระแทวนั้น นายแพทย์และนักพฤกษศาสตร์ชาวไอริช ชื่อ Dr. A.F.G KERR ซึ่งดำรงเจ้ากรมตรวจพันธุ์รุกขชาติ สังกัดกรมเพาะปลูกในเวลานั้น ได้เดินทางเข้ามาสำรวจพรรณไม้ในเทือกเขาพระแทว และได้เก็บตัวอย่างปาล์มพันธุ์ใหม่ชนิดหนึ่งที่เก็บได้บริเวณริมลำธาร แต่ว่ายังไม่สามารถจำแนกชื่อและสกุลได้เนื่องจากยังไม่ปรากฏดอกให้เห็นจึงได้นำตัวอย่างแห้งของปาล์มชนิดนี้ไปเก็บรักษาไว้ที่มีการเก็บรักษาไว้ที่ หอพรรณไม้สวนพฤกษาศาสตร์ KEW กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ

 

        ต่อมามีนักเชี่ยวชาญพฤกษาศาสตร์ป่าไม้ และนักวิชาการของไทย รวมทั้งนักพฤกษาศาสตร์ชาวต่างชาติได้เก็บตัวอย่างปาล์มพันธุ์นี้ไปศึกษาอีกครั้งและพบว่า เป็นปาล์มพันธุ์ใหม่ของโลก จึงตั้งชื่อสกุลปาล์มพันธุ์ใหม่นี้ว่า สกุล Kerriodoxa Dransfield เพื่อเป็นเกียรติแก่ Dr. A.F.G KERR ผู้บุกเบิกมาก่อนหน้านี้ โดยเรียกชื่อสามัญว่า “ปาล์มหลังขาว” “ทังหลังขาว” หรือ “ปาล์มเจ้าเมืองถลาง”จัดเป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ของเมืองไทย เนื่องจากระบบนิเวศของป่าดิบชื้นเมืองไทยได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติลดน้อยลงไป

 







: ห้องสมุดประชาชนอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
: 2562-11-15